ศัลยกรรมผ่าตัดเสริมกล้ามหน้าอกด้วยซิลิโคน
(Pectoral Implant)
ด้วยสังคมที่เร่งรีบในปัจจุบัน ต้องทำทุกอย่างเพื่อแข่งกับเวลา จนไม่มีเวลาดูแลตนเองมากพอ ขาดการออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอ จนน้ำหนักตัวมาก กล้ามเนื้อหย่อนยานไม่สมส่วน ศัลยกรรมเสริมกล้ามเนื้อหน้าอก จึงเป็นอีกทางเลือกนึงที่ตอบโจทย์สำหรับผู้ชายทั้งหลาย ที่ไม่มีเวลาออกกำลังกาย แต่อยากรูปร่างดีได้ภายในไม่กี่ชั่วโมง
เกี่ยวกับการศัลยกรรมการเสริมกล้ามเนื้อหน้าอก
กล้ามเนื้อหน้าอกเป็นส่วนที่ทำให้ผู้ชายทรวดทรงดีขึ้น ผู้ชาย หรือนักเพาะกายบางคนแม้จะออกกำลังกายกล้ามเนื้อหน้าอก (Pectorals Major) อย่างสม่ำเสมอ แต่ก็ไม่สามารถทำให้กล้ามเนื้อมัดนี้ใหญ่ขึ้นมาได้
ปัจจุบันการทำศัลยกรรมเสริมกล้ามเนื้อหน้าอกมีหลากหลายเทคนิค ความปลอดภัยสูง วัสดุที่ใช้มีคุณภาพดี เช่น การเสริมกล้ามหน้าอกโดยใช้ซิลิโคนแผ่น หรือถุงเจล หากไม่พอใจ หรือต้องการแก้ไขก็สามารถเอาออกได้ หน้าอกก็จะกลับมาเหมือนเดิมก่อนการเสริม
วัสดุที่ใช้เสริมกล้ามเนื้อหน้าอกมี 2 แบบ คือ
1. ซิลิโคนแผ่น (นิยมใช้กันในประเทศอเมริกา)
เป็นซิลิโคนแท่งเหมือนกับซิลิโคนที่ทำจมูก แต่มีความกว้าง ยาว และนิ่มกว่า สามารถพับงอได้อาจจะมีสีใส แต่โดยทั่วไปนิยมสีขาวขุ่นมากกว่า เป็นซิลิโคนที่ผลิตเพื่อใช้ทางการแพทย์เท่านั้น ยางซิลิโคนที่ใช้ในเพศชายจะมีความแข็งมากกว่าถุงซิลิโคนที่ใช้เสริมเต้านม ทำให้หลังผ่าตัดจะมีลักษณะเหมือนกล้ามเนื้อที่แข็งแรง
ข้อดี
· เหลาให้พอดีกับขนาดหน้าอกที่คนไข้ต้องการได้ แต่การใส่ใต้กล้ามเนื้ออาจยากกว่าเล็กน้อย
2. ถุงเจล (นิยมใช้กันในประเทศอเมริกาใต้)
เป็นถุงซิลิโคนเหมือนถุงซิลิโคนที่ทำหน้าอก แต่เจลจะเหนียวและรูปร่างของถุงจะแบน เป็นสี่เหลี่ยมคล้ายกับรูปร่างของกล้ามเนื้อหน้าอก ถุงซิลิโคนเสริมหน้าอกเพศชาย มีหลายขนาด มักทำเป็นผิวทรายไม่ค่อยทำเป็นผิวเรียบ โดยตำแหน่งของการวางจะวางใต้กล้ามเนื้อเท่านั้น
ข้อดี
· นิ่มกว่าแผ่นซิลิโคน
· เวลาผ่าตัดจะใส่ถุงได้ง่ายกว่า แต่ไม่สามารถเหลาให้มีรูปร่างพอดีกับหน้าอกของแต่ละคนได้
ทั้งนี้เทคนิคการทำศัลยกรรมที่เหมาะสม ขึ้นอยู่กับดุลยพินิจของแพทย์ และปัญหาของคนไข้แต่ละราย เพื่อให้ได้ผลลัพธ์ที่พึงพอใจสูงสุด คนไข้จำเป็นต้องเข้ามาปรึกษาเเพทย์ก่อนทำทุกครั้ง
การเตรียมตัวก่อนการทำศัลยกรรมเสริมกล้ามหน้าอก
· โปรดแจ้งโรคประจำตัว อาการแพ้ยา ยาหรืออาหารเสริมที่ใช้ในปัจจุบันให้ศัลยแพทย์ทราบล่วงหน้า
· งดแอสไพริน (aspirin) ไอบิวโพรเฟน (ibuprofen) และวิตามินอี ล่วงหน้า 2 สัปดาห์
· งดอาหารก่อนผ่าตัดอย่างน้อย 6 ชั่วโมง แต่ไม่จำเป็นต้องงดน้ำ
· งดสูบบุหรี่ก่อนผ่าตัด 2 สัปดาห์ และหลังผ่าตัด 4 สัปดาห์
· ลาหยุดประมาณ 5-7 วันหลังผ่าตัด
การใช้ยาระงับความเจ็บปวดก่อนผ่าตัด
· วางยาสลบ
ระยะเวลาการผ่าตัด
· 1 ชั่วโมงครึ่ง
การรับประกันความพึงพอใจ
· ในกรณีที่ต้องมีการผ่าตัดแก้ไข จะไม่คิดค่าแพทย์ และค่าใช้จ่ายในการดูแลรักษาหลังการผ่าตัด
ภาวะแทรกซ้อน
· ติดเชื้อ เลือดออก และกล้ามเนื้ออักเสบ อย่างไรก็ตามภาวะแทรกซ้อนต่างๆ สามารถลดลงได้จากความชำนาญของศัลยแพทย์ผู้ทำการผ่าตัด
ระยะเวลาพักฟื้น
· ใช้เวลาพักฟื้นประมาณ 5 ถึง 7 วัน จึงกลับไปทำงานได้ตามปกติ
การดูแลบาดแผลหลังผ่าตัดเสริมกล้ามหน้าอกด้วยซิลิโคน
· รู้สึกเจ็บเล็กน้อยในช่วงแรก แต่อาการจะค่อยๆ ดีขึ้นในภายใน 5-7 วัน
· ในช่วงนี้คนไข้จะเริ่มเดินและนั่งได้สะดวกยิ่งขึ้น กิจกรรมต่างๆ เช่น การวิ่ง หรือการขี่จักรยาน เริ่มทำได้สัปดาห์ที่ 4 หลังการผ่าตัด
· กล้ามเนื้อหน้าอกจะเริ่มเข้าที่ ดูเป็นธรรมชาติ ในสัปดาห์ที่ 6-8 หลังการผ่าตัด
ข้อแนะนำหลังการเสริมกล้ามเนื้อหน้าอก
· งดออกกำลังกาย 1 เดือน
· นอนยกศีรษะสูงประมาณ 1–2 สัปดาห์ เพื่อลดอาการบวม
· งดเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ งดสูบบุหรี่ เป็นเวลา 2 สัปดาห์
· หลังผ่าตัด 1 เดือนจึงถูกแสงแดดได้ โดยหมั่นทาครีมกันแดดทุกครั้ง
· นัดตัดไหมวันที่ 5 หลังการผ่าตัด
· รับประทานยาตามแพทย์สั่ง หากเกิดความผิดปกติ หรือแพ้ยา เช่น มีผื่นแดง คัน คลื่นไส้ อาเจียน แน่นหน้าอก ให้มาพบแพทย์ทันที
ค่าใช้จ่ายในการทำศัลยกรรมเสริมกล้ามเนื้อหน้าอก (เเบบรวมอยู่ในเเพกเก็จ)
· ค่าแพทย์ และค่าปรึกษาแพทย์
· ค่ายา และอุปกรณ์ทางการแพทย์
· ค่าดูแลก่อนและหลังผ่าตัด
· ค่ายา และเวชภัณฑ์หลังผ่าตัด
· การตรวจติดตามผลหลังผ่าตัด
· ค่าห้องพักของโรงพยาบาลก่อนและหลังผ่าตัด
การนัดผ่าตัด
สามารถสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่
📞 02-715-0111
(9.00-17.00)
📱 081-813-6144
📧 consult@pai.co.th
Facebook preechasurgery
LINE @paisurgery