ศัลยกรรมผ่าตัดเสริมหน้าอกด้วยซิลิโคน
(Breast Augmentation Surgery)
ศัลยกรรมผ่าตัดเสริมหน้าอกด้วยซิลิโคนนอกจากจะทำเพื่อเสริมความงามแล้ว ยังเพิ่มความมั่นใจในการใช้ชีวิตในสังคม และยังเป็นที่นิยมสำหรับผู้หญิงที่มีหน้าอกขนาดเล็ก เพราะการเสริมหน้าอกจะช่วยให้รูปร่างมีส่วนโค้งเว้าชัดเจนขึ้น มีเสน่ห์ แต่งตัวได้หลากหลายมากขึ้น นอกจากนี้ยังช่วยแก้ไขปัญหาหน้าอกหย่อนยาน เสียรูปทรงจากการตั้งครรภ์ การลดน้ำหนัก หรือหน้าอกสองข้างไม่เท่ากันได้อีกด้วย
ผู้ที่เหมาะสมในการผ่าตัดเสริมหน้าอก
· ผู้ที่มีอายุมากกว่า 18 ปีขึ้นไป
· ไม่แนะนำสำหรับผู้ที่กำลังตั้งครรภ์ หรือให้นมบุตรอยู่
การเตรียมตัวก่อนการผ่าตัดเสริมหน้าอกด้วยซิลิโคน
1. โปรดแจ้งโรคประจำตัว อาการการแพ้ยา ยาหรืออาหารเสริมที่ใช้ในปัจจุบันให้แพทย์ทราบก่อนการผ่าตัด
2. งดแอสไพริน (aspirin) ยาแก้ปวดกลุ่มNSAID น้ำมันปลา (fish oil) และวิตามินอี ล่วงหน้า 2 สัปดาห์
3. งดสูบบุหรี่ก่อนและหลังผ่าตัด 2-4 สัปดาห์
4. เตรียม sport bra ขนาดใหญ่กว่าปัจจุบันเล็กน้อย 1-2 ชุด เพื่อสวมใส่หลังการผ่าตัด
5. วางแผนเลือกขนาด วัสดุ และตำแหน่งที่ต้องการเสริมหน้าอกร่วมกับศัลยแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ
* วัสดุที่เลือกใช้ควรมีขนาดเหมาะสมกับโครงสร้างร่างกาย เพื่อผลลัพธ์ที่ต้องการและดูเป็นธรรมชาติ ซึ่งวัสดุที่ศัลยเเพทย์นิยมในการเสริมหน้าอก คือซิลิโคนเจล (Cohesive Gel implant)
ข้อดีของ Cohesive Gel Implant
· ลดโอกาสการเกิดพังผืด
· เนื้อเจลนิ่มเป็นธรรมชาติ
· โอกาสที่พบถุงซิลิโคนฉีกขาดน้อยมาก
· สามารถตรวจ Mammogram หรือ MRI ได้ตามปกติ
· มีอายุการใช้งาน 10 ปี
· ผ่านการรับรองจาก อย.สหรัฐอเมริกา (US FDA)
วิธีการผ่าตัดเสริมหน้าอกด้วยซิลิโคน
· ศัลยแพทย์เปิดแผล และเปิดช่องภายในบริเวณทรวงอกเพื่อวางถุงซิลิโคน (ช่องนี้จะอยู่เหนือหรือใต้ชั้นกล้ามเนื้อ ขึ้นอยู่กับการพิจารณาของแพทย์เป็นหลัก)
· เมื่อวางถุงซิลิโคนในตำแหน่งที่ถูกต้องแล้ว ศัลยแพทย์จะเย็บเพื่อปิดปากแผล และพันผ้าพันแผลไว้รอบหน้าอก และให้คนไข้พักฟื้นในโรงพยาบาล 1 คืน เพื่อติดตามอาการข้างเคียงจากการวางยาสลบ
ระยะเวลาในการผ่าตัดเสริมหน้าอก
· ระงับความรู้สึกด้วยการดมยาสลบ ใช้เวลาผ่าตัดประมาณ 2-3 ชั่วโมง
ขั้นตอนการดูแลหลังผ่าตัดเสริมหน้าอก
1. ศัลยแพทย์จะพันแผลไว้รอบหน้าอกคนไข้ เพื่อป้องกันการกระทบกระเทือน และพยุงทรงของทรวงอกไว้ ซึ่งสามารถแกะผ้าพันแผลออกได้ 3-5 วันหลังการผ่าตัด
2. อาจมีน้ำเหลือง หรือเลือดจางๆ ออกจากแผล ให้ใช้ไม้พันสำลีชุบน้ำสะอาด เช็ดเบาๆ วันละครั้ง
3. สวมยกทรงกระชับทรวงอกในช่วง 2-4 สัปดาห์แรก
4. งดกิจกรรมหนักๆ 2-3 เดือน
5. หลีกเลี่ยงแผลโดนน้ำ 4-7 วัน
6. อาการบวมจะค่อยๆ หายไปภายใน 5-7 วัน
7. กรณีที่มีเลือดออกมาก บวมหรือปวดมากขึ้นเรื่อยๆ ให้รีบปรึกษาแพทย์
8. รับประทานยาตามคำเเนะนำของศัลยเเพทย์
9. ศัลยแพทย์นัดเพื่อตรวจและตัดไหม หลังผ่าตัด 1 สัปดาห์
ระยะเวลาพักฟื้นหลังผ่าตัดเสริมหน้าอก
· ใช้เวลาพักฟื้นประมาณ 1 ถึง 2 สัปดาห์ จึงกลับไปทำงานได้ตามปกติ
ภาวะแทรกซ้อน และผลข้างเคียง
· แผลเป็นนูน แผลเป็นคีลอยด์ เลือดออก หน้าอกเขียวช้ำ อาการปวดหลังการผ่าตัด แผลสมานตัวช้า ขนาดของเต้านมสองข้างไม่เท่ากัน ภาวะติดเชื้อบริเวณแผลผ่าตัด หรือติดเชื้อรอบซิลิโคนเสริมเต้านม ความรู้สึกบริเวณหัวนมเปลี่ยนแปลงหรือชา ภาวะพังผืด ซิลิโคนเหลวหรือน้ำเกลือแตกรั่วออกจากถุงซิลิโคน การย่นตัวของผิวหนังที่เต้านม และความเสี่ยงจากการดมยาสลบ
*ภาวะแทรกซ้อนเหล่านี้จะลดลงได้ หากคนไข้ปฏิบัติตามขั้นตอนการดูแลรักษาอย่างเคร่งครัด ร่วมกับความชำนาญของศัลยแพทย์ผู้ทำการผ่าตัด
รีวิวก่อนและหลังผ่าตัดเสริมหน้าอกด้วยซิลิโคน
การนัดผ่าตัด
สามารถสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่
📞 02-715-0111
(9.00-17.00)
📱 081-813-6144
📧 consult@pai.co.th
Facebook preechasurgery
LINE @paisurgery