ศัลยกรรมผ่าตัดแปลงเพศจากชายเป็นหญิง ด้วยผิวหนังของอวัยวะเพศชาย
(MTF SRS by Penile Skin Inversion Vaginoplasty)
ความหลากหลายของเพศทางเลือกเป็นที่ยอมรับมากขึ้น เพื่อให้ชีวิตสมบูรณ์แบบตามที่ต้องการ สามารถทำได้ด้วยการผ่าตัดเพื่อให้มีอวัยวะเพศตรงตามสภาพจิตใจที่ต้องการของตนเอง จะเป็นขั้นตอนที่จะช่วยเหลือผู้ที่มีภาวะขัดแย้งระหว่างการรับรู้เพศและสภาพร่างกายที่ไม่สอดคล้องกัน ได้เติมเต็มความรู้สึกของตัวเองแบบที่อยากได้อยากเป็น ใช้ชีวิตได้แบบสมบูรณ์ขึ้นกับเพศที่ตนเองได้เลือก ทั้งนี้การผ่าตัดเพื่อเปลี่ยนแปลงเพศจึงเป็นการผ่าตัดที่มีผลต่อวิถีชีวิตและไม่สามารถกลับคืนได้ จึงควรมีการเตรียมตัวหาข้อมูลเกี่ยวกับการผ่าตัดให้ครบถ้วนก่อนการตัดสินใจ
การผ่าตัดแปลงเพศชายเป็นหญิงจำเป็นต้องอาศัยประสบการณ์และความชำนาญอย่างสูงของศัลยแพทย์ผู้ทำการผ่าตัด โดยจากการทำงานอันยาวนานกว่า 35 ปี และเป็นที่ยอมรับทั้งจากในประเทศและนานาชาติในการผ่าตัดแปลงเพศ (จากชายเป็นหญิงมากกว่า 4,680 ราย และจากหญิงเป็นชายมากกว่า 1,390 ราย) ของรศ.นพ.ปรีชา เตียวตรานนท์ และทีมศัลยแพทย์ตกแต่ง และแปลงเพศเฉพาะทางร่วมกันกับนพ.บุรินทร์ หวังจิรนิรันดร และนพ.สุทิน ขอบุญส่งเสริม เป็นสิ่งยืนยันความเป็นมืออาชีพของทีมศัลยแพทย์ของ PAI
นอกจากนี้เทคนิคปัจจุบันของทีมแพทย์พีเอไอที่พัฒนาจาก ที่รับรู้ความรู้สึกจากเดิม 3 จุด เพิ่มขึ้นเป็น อย่างน้อย 5 จุดหลัก และรับรู้ความรู้สึกมากกว่า แบบเดิม โดยแต่ละจุดจะมีความรู้สึกถ่ายทอดกันทุกจุด
จุดที่ 1 ที่ปลายอวัยวะเพศชาย ที่นำมาทำ Clitoris จุดนี้จะอยู่ด้านบนของอวัยวะเพศหญิง
จุดที่ 2 รอบรูเปิดของท่อปัสสาวะ
จุดที่ 3 ต่อมลูกหมาก จะอยู่ข้างในช่องคลอด
จุดที่ 4 คือ รอบนอก จะวางจุดกระสันเพื่อเกิดความรู้สึก
จุดที่ 5 คือ รอบนอก รวมถึงระหว่างทางเข้าของช่องคลอด
ข้อควรรู้ก่อนเข้ารับการผ่าตัดแปลงเพศ
เนื่องจากศูนย์ศัลยกรรมตกแต่ง พีเอไอ ได้วางมาตรฐานเดียวกับ WPATH (The World Professional Association for Transgender Health) องค์กรที่เกิดจากการรวมตัวของผู้เชี่ยวชาญสาขาต่างๆ ทั่วโลก โดยไม่แสวงหากำไร เกี่ยวข้องกับการดูแลสุขภาพของกลุ่ม Transgender หรือ คนข้ามเพศ เป็นการทำงานร่วมกันของแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ ทั้งสาขาจิตเวช ศัลยกรรมตกแต่ง อายุกรรม
สำหรับผู้ที่เหมาะสมในการผ่าตัดแปลงเพศ คนไข้จะต้องปฏิบัติตามข้อกำหนดของ HBIGDA (the Harry Benjamin International Gender Dysphoria Association, Inc.) ตามมาตรฐานสากลก่อนเข้ารับการผ่าตัดแปลงเพศ ดังนี้
1. ผู้ที่จะเข้ารับการผ่าตัดแปลงเพศต้องมีอายุไม่ต่ำกว่า 18 ปี และจะต้องได้รับการอนุญาตจากผู้ปกครองหากมีอายุต่ำกว่า 20 ปี
2. สุขภาพร่างกายแข็งแรง หากมีประวัติสุขภาพหรือเคยผ่านการผ่าตัดบริเวณช่องท้อง ควรแจ้งให้ศัลยแพทย์ทราบล่วงหน้า
3. ตรวจร่างกายโดยละเอียดอย่างน้อย 3 วันก่อนเข้ารับการผ่าตัดแปลงเพศ โดยคนไข้จะต้องผ่านการตรวจทางห้องปฏิบัติการ ได้แก่ ตรวจเม็ดเลือด HIV เกลือแร่ น้ำตาล การทำงานของตับและไต ตรวจปัสสาวะ คลื่นไฟฟ้าหัวใจ เป็นต้น
4. เข้าใจในข้อกำหนด หรือขอบเขตของการผ่าตัด
5. ผ่านการใช้ฮอร์โมนก่อนการแปลงเพศ อย่างน้อย 1 ปี
6. ผ่านการอนุมัติจากจิตแพทย์ อย่างน้อย 2 ท่าน
นอกจากนี้แล้วคนไข้จะต้อง
1. แจ้งอาการแพ้ยา ยาหรืออาหารเสริมที่ใช้ในปัจจุบันก่อนเข้ารับการผ่าตัด หากมีโรคประจำตัว โปรดแจ้งศัลยแพทย์ล่วงหน้า
2. งดแอสไพริน (aspirin) ไอบิวโพรเฟน (ibuprofen) น้ำมันปลา (fish oil) และวิตามินอี ล่วงหน้า 2 สัปดาห์ก่อนเข้ารับการผ่าตัด
3. งดรับประทานหรือฉีดฮอร์โมนก่อนผ่าตัด ประมาณ 2 สัปดาห์ เพื่อลดโอกาสเส้นเลือดดำอุดตัน อย่างไรก็ตามการงดฮอร์โมนนี้จะต้องอยู่ภายใต้การวินิจฉัยของแพทย์อย่างเคร่งครัด
4. งดสูบบุหรี่ก่อนผ่าตัด 2 สัปดาห์ และหลังผ่าตัด 4 สัปดาห์
ทำไมคนไข้ควรใช้ฮอร์โมนก่อนการแปลงเพศ
โดยทั่วไปแล้วก่อนที่คนไข้จะตัดสินใจผ่าตัดแปลงเพศ จิตแพทย์จะต้องทำการทดสอบคนไข้ก่อนว่าพร้อมที่จะใช้ชีวิตเป็นผู้หญิงหรือไม่ โดยการใช้ฮอร์โมนหรือการแต่งตัวเป็นผู้หญิงร่วมอย่างน้อย 12 เดือนก่อนการผ่าตัดเป็นต้น ฮอร์โมนเพศหญิงที่จะให้กับคนไข้ ในขณะเดียวกันก็จะให้ยากดฮอร์โมนเพศชาย เพื่อช่วยให้รูปลักษณ์ความเป็นชายลดลง และเพื่อช่วยลดอารมณ์ทางเพศ การกด/ลดฮอร์โมนเพศชายนี้จะต้องทำอย่างต่ำ 1 ปี อย่างไรก็ตามคนไข้จะต้องตระหนักถึงผลของการใช้ฮอร์โมนในระยะยาว ดังนั้นการใช้ฮอร์โมนควรอยู่ภายใต้การดูแลของแพทย์อย่างใกล้ชิด
ข้อดีของการผ่าตัดแปลงเพศจากชายเป็นหญิง ด้วยผิวหนังของอวัยวะเพศชาย Penile Skin Inversion
· ภาวะแทรกซ้อนต่ำ ไม่มีแผลเป็นภายนอกหรือใต้ราวสะดือ
· ในกรณีที่คนไข้มีผิวหนังจากถุงอัณฑะไม่มากพอ ศัลยแพทย์สามารถนำผิวหนังจากบริเวณอื่น เช่น ผิวหนังบริเวณขาหนีบหรือหน้าท้อง มาใช้ร่วมกับผิวหนังจากถุงอัณฑะเพื่อการปลูกถ่ายผิวหนังในปริมาณที่ต้องการได้
วิธีการสร้างช่องคลอดจากผิวหนังอวัยวะเพศชาย
· การสร้างช่องคลอดเทียม แพทย์จะตัดต่อท่อปัสสาวะที่ยาวให้สั้นลง ให้อยู่ในตำแหน่งที่ถูกต้อง และสามารถนั่งปัสสาวะได้ จากนั้นทำการเปิดช่องเพื่อสร้างช่องคลอดเทียม โดยผ่าตัดเปิดผิวหนังให้เป็นช่องที่กว้างและลึกพอสมควร จากนั้นทำการดึงผิวหนังจากบริเวณอวัยวะเพศชายไปกั้นเป็นผนังช่องคลอด และตัดแกนองคชาตออก โดยความลึกของช่องคลอดจะขึ้นอยู่กับความยาวของอวัยวะเพศชายเดิมด้วยเช่นกัน
· ตกแต่งรูปร่างแคมนอกและแคมใน ให้เหมือนอวัยวะเพศหญิงมากที่สุด
· ตกแต่งประสาทรับความรู้สึก โดยแพทย์จะเก็บเส้นเลือดและเส้นประสาทรับรู้ไว้ และสร้างเป็นปุ่มคลิตอริส (Clitoris) ที่เพิ่มจุดสัมผัสรับรู้ทางเพศ
ระยะเวลาในการผ่าตัด
· ระงับความรู้สึกด้วยการดมยาสลบ ใช้เวลาผ่าตัดประมาณ 3-5 ชั่วโมง
การดูแลระหว่างพักฟื้นในโรงพยาบาล
· นอนโรงพยาบาล 5 คืน เพื่อพักฟื้นและติดตามอาการหลังการผ่าตัด
ระยะเวลาพักฟื้น
· ใช้เวลาพักฟื้นประมาณ 4 ถึง 6 สัปดาห์จึงกลับไปทำงานได้ตามปกติ บาดแผลภายในจะเริ่มหายดีหลังการผ่าตัดไปแล้วประมาณ 6 เดือน
การดูแลรักษา ระหว่างพักฟื้นในโรงพยาบาล
ศัลยแพทย์จะสอดท่อสวนปัสสาวะเพื่อป้องกันการตีบของท่อที่ทำขึ้นมาใหม่และเพื่อให้คนไข้ปัสสาวะได้สะดวกไม่กระทบกระเทือนต่อบาดแผล นอกจากนี้แล้วแพทย์จะสอดผ้าก๊อซเข้าช่องคลอดในระยะแรกเพื่อซับเลือดและป้องกันการหดตัวของช่องคลอดจากการดึงรั้งของบาดแผลที่เริ่มประสานกัน คนไข้จะต้องปฏิบัติตัวอย่างเคร่งครัดในการดูแลบาดแผลและช่องคลอดใหม่
ขั้นตอนการดูแลหลังผ่าตัดแปลงเพศจากชายเป็นหญิง ด้วยผิวหนังของอวัยวะเพศชาย
· ลดอาหารที่กระตุ้นการขับถ่าย เช่น อาหารที่มีกากใยสูงและนม
· ในส่วนของการทำความสะอาดบาดแผลภายนอก คนไข้จะได้รับน้ำยาฆ่าเชื้อ (Antiseptic) เพื่อทำความสะอาดบาดแผล ในส่วนของการทำความสะอาดบาดแผลภายในช่องคลอดหลังผ่าตัด 6-8 สัปดาห์ คนไข้จะทำความสะอาดโดยใช้เบตาดีน 10 ซีซี ผสมกับน้ำเกลือNSS หรือน้ำสะอาดปราศจากเชื้อ 200 ซีซี จากนั้นใช้ลูกยางแดงปลายยาว (Syring ball) สวนล้างช่องคลอดและอวัยวะเพศภายนอก คนไข้จะต้องใส่ผ้าอนามัยโดยเปลี่ยนวันละ 2 ถึง 3 ครั้ง เนื่องจากอาจมีอาการเลือดออกอยู่ในช่วง 1 สัปดาห์แรกหลังการผ่าตัด
ทำความสะอาดช่องคลอด วันละ 2 ครั้ง เช้า-เย็น และวันละ 1 ครั้ง หลัง 1 เดือน (จนถึงประมาณ 6 เดือน) ทาขี้ผึ้งบริเวณแผล รูเปิดท่อปัสสาวะ และคลิตอริสทุกครั้งหลังอาบน้ำ
· หลังผ่าตัดในระยะแรก ควรนอนในท่าที่ขาทั้งสองข้างแยกออกจากกัน โดยอาจใช้ผ้าห่มหรือหมอนกั้นกลางไว้ขณะที่หลับ และสามารถลุกเดินได้หลังผ่าตัด 5 วัน
· ภายหลังจากที่ศัลยแพทย์นำผ้าก๊อซออกจากช่องคลอดแล้ว คนไข้จะต้องปฏิบัติตามคำแนะนำเกี่ยวกับการสอดเครื่องช่วยขยายช่องคลอดอย่างเคร่งครัด การปฏิบัติเช่นนี้จะช่วยลดโอกาสที่ช่องคลอดจะหดตัวจากบาดแผลที่เริ่มประสานกัน ทำให้ช่องคลอดมีความลึกตามต้องการ ป้องกันไม่ให้ช่องคลอดตีบตัน ด้วยการใส่วัสดุขยายช่องคลอดเทียม โดยเริ่มจากขนาดเล็กๆ ก่อนแล้วค่อยๆ เพิ่มความกว้างและความยาวตามลำดับตามคำแนะนำของแพทย์ โดยสามารถมีเพศสัมพันธ์ได้หลังการผ่าตัดประมาณ 2 เดือน
· หากเกิดความผิดปกติ หรืออาการแทรกซ้อน ให้มาพบแพทย์ทันที
· ในส่วนของการรับประทานฮอร์โมนเพศหญิง คนไข้สามารถกลับไปรับประทานได้หลังผ่าตัดไปแล้วประมาณ 1-2 สัปดาห์ อย่างไรก็ตามเนื่องจากจะต้องมีการปรับขนาดของฮอร์โมนหลังผ่าตัด คนไข้จึงต้องเข้ารับคำปรึกษาอย่างใกล้ชิดจากแพทย์ผู้เชี่ยวชาญทางต่อมไร้ท่อ
ความเสี่ยงและภาวะแทรกซ้อน ที่อาจจะเกิดขึ้นได้
(Risk and Complication)
· แผลบวม (Swelling)
· มีรอยซ้ำ (Bruising)
· มีเลือดคั่ง (Hematoma)
· มีเลือดออก (Bleeding)
· การติดเชื้อ (Infection)
· ช่องคลอดทะลุเข้าลำไส้ (Recto-vaginal fistula)
· แผลสมานตัวช้า (Poor healing)
· เนื้อตาย (Flap necrosis)
· ช่องคลอดตีบ หรือ ท่อปัสสาวะตีบ (Vaginal and Urethral stenosis)
· ความไม่พอใจในขนาด และรูปทรงของช่องคลอด ท่อปัสสาวะ และคลิตอริส (Unsatisfied size or shape of vaginal urethral and clitoris)
· ปวดแผล (Pain) แก้ไขได้ด้วยยาแก้ปวด
· แคมอาจจะมีขนาดไม่เท่ากัน (Asymmetric Labia)
· แผลเป็น (Scarring)
· ความรู้สึกทางเพศลดลง (Decreased Sensation)
· ผู้ป่วยที่มีประวัติโรคเลือด อาจจะเกิด deep vein thrombosis ต้องแจ้งให้แพทย์ทราบจะได้ป้องกันได้โดยใส่เครื่องมือไล่เลือดที่ขาตลอดเวลา 2-3 วัน
· ความเสี่ยงจากผลข้างเคียงของการดมยาสลบ (Risk from anesthesia)
· เนื่องจากคนไข้ต้องใส่ท่อสวนปัสสาวะ จึงอาจทำให้รูเปิดท่อปัสสาวะบวมและปัสสาวะไม่ออกในช่วงแรก อาการบวมจะลดลงหลังจากถอดท่อสวนออกแล้ว
รวมค่ารักษาผ่าตัดแปลงเพศจากชายเป็นหญิงด้วยผิวหนังของอวัยวะเพศชาย และบริการจาก PAI
· ตรวจร่างกายก่อนผ่าตัด
· ค่าปรึกษาแพทย์
· ค่าแพทย์ผู้ทำการผ่าตัด
· วิสัญญีแพทย์
· ค่าดูแลก่อน และหลังผ่าตัด
· ค่าห้องผ่าตัด ค่าอุปกรณ์ทางการแพทย์และค่ายาระหว่างผ่าตัด
· อุปกรณ์ Dilator 2 ขนาด
· แผ่นรองนั่ง
· ค่ายาหลังการผ่าตัด
· ค่าห้องพักของโรงพยาบาล 6 คืน
· ค่าตรวจติดตามผลหลังผ่าตัด
รีวิวศัลยกรรมผ่าตัดแปลงเพศจากชายเป็นหญิง
คำถามที่พบบ่อย
ถาม ดิฉันมีความต้องการจะเข้ารับการผ่าตัดแปลงเพศจากชายเป็นหญิง ดิฉันต้องเริ่มต้นยังไงบ้างค่ะ โดยมีข้อมูลจำเพาะดังนี้ค่ะ
ดิฉันอายุ 40 ปี กินยาคุมยี่ห้อไดแอน เป็นเวลา 19 ปี (ตั้งแต่อายุ 21 ปี) ตอนนี้ใช้โปรกีโนว่าวันละ 1 เม็ด แอนโดรคัวร์ 1/4 เม็ด วันเว้นวัน (เฉลี่ยสัปดาห์ละ 1 เม็ด) และฉีดโปกินินและโปลูตรอน สัปดาห์ละครั้ง เป็นเวลา 2 เดือนแล้ว ใช้ชีวิตเป็นผู้หญิงมาเป็นเวลา 18 ปี มีลักษณะคล้ายผู้หญิงแต่ไม่ถึงกับสวยเหมือนกับรุ่นน้องๆ หรือรุ่นหลานๆ ในสมัยนี้ เพราะยังมีโครงร่างใหญ่ แขน ขาอวบใหญ่ ยังคงมีขนหน้าแข้ง ขนรักแร้ เคราขึ้นบ้างเล็กน้อย 5-6 เส้น ใช้วิธีกำจัดโดย โกนขนหน้าแข้ง และถอนในส่วนที่มีน้อยๆ อวัยวะเพศชายขณะแข็งตัว ประมาณ 3-4 นิ้ว ไม่เคยผ่านการร่วมกับผู้หญิงเลย ปลายเลยยังไม่เปิดขอสอบถาม ดังนี้ค่ะ
1) ดิฉันต้องเข้าไปปรึกษาแพทย์จาก PAI ตั้งแต่เมื่อไหร่ ค่าใช้จ่ายในแต่ละครั้งต้องใช้จ่ายเท่าไหร่
2) การขอใบรับรองจากจิตแพทย์ได้ที่ไหนบ้างค่ะ
3) ดิฉันต้องใช้วิธีการผ่าตัดแบบไหนค่ะ
4) ค่าใช้จ่ายดิฉันต้องใช้จ่ายเท่าไหร่เบ็ดเสร็จเพราะจะยื่นกู้เงินเพื่อใช้ในการผ่าตัด
5) ใช้เวลาในการผ่าตัดและรักษาตัวทั้งหมดกี่วันรวมตั้งแต่ผ่าตัดและรักษาตัวหลังออกจากโรงพยาบาล เพราะต้องยื่นวันลากับสถานที่ทำงานขอขอบพระคุณล่วงหน้าค่ะ
ตอบ จากข้อมูลเบื้องต้น หมอแนะนำให้เข้ามาปรึกษาโดยตรงเพื่อที่จะได้ทราบถึงขั้นตอนในการผ่าตัด และเตรียมตัวก่อนการผ่าตัดครับ (ไม่เสียค่าใช้จ่ายในการปรึกษา) ส่วนการขอใบรับรองจิตแพทย์หมอจะส่งเรื่องต่อไปให้ครับ อาจจะมีค่าใช้จ่ายในการปรึกษาจิตแพทย์ และชำระกับทางโรงพยาบาลโดยตรง การผ่าตัดมี 2 วิธีหลักที่ทำกันอยู่ครับแบบที่หนึ่งคือ การทำศัลยกรรมแปลงเพศแบบปกติที่ทำกันคือ ถ้าอวัยวะเพศตอนแข็งตัวประมาณ 4 นิ้ว หลังจากทำศัลยกรรมแปลงเพศแล้วจะมีช่องคลอดเทียมอยู่ที่ความลึก 5 นิ้ว
แบบที่สองคือ การทำศัลยกรรมแปลงเพศแบบใช้ลำไส้ร่วมด้วยกับแบบที่หนึ่ง การทำศัลยกรรมแปลงเพศแบบที่สองนี้เหมาะสำหรับผู้ที่มีความประสงค์อยากจะมีช่องคลอดเทียมลึกอย่างน้อย 6.5 นิ้วครับ หรือผู้ที่มีอวัยวะเพศที่แข็งตัวน้อยกว่า 4 นิ้วก่อนทำศัลยกรรมผ่าตัดแปลงเพศ โดยสรุปแล้วผู้ที่จะทำศัลยกรรมแปลงเพศคงต้องวางแผนล่วงหน้าให้กับตนเองว่าคุณอยากมีช่องคลอดเทียมลึกประมาณเท่าไร เพราะบางท่านมีแฟนที่มีอวัยวะเพศยาวมากจึงทำศัลยกรรมแบบที่สองไปเลยครับ ค่าใช้จ่ายในการแปลงเพศจะคิดแบบเหมาจ่ายครับ คือรวมนอนโรงพยาบาล 6 วัน ค่ายา ค่าผ่าตัด ค่าตรวจร่างกาย และอื่นๆ แล้วครับ รวมการรักษาตัว และพักฟื้นประมาณ 18 วันหลังการทำจึงกลับไปทำงานได้ครับ ทั้งนี้แพทย์จะออกใบรับรองในการแปลงเพศหลังจากตรวจในวันที่ 18
ถาม ดิฉันขลิบปลายอวัยเพศค่ะ (เหมือนชายมุสลิมที่ขลิบปลายอวัยวะเพศ) ไม่ทราบว่าจะได้ความลึกของช่องคลอดยาวกี่นิ้วคะ ตอนอวัยวะเพศแข็งตัวก็ประมาณ 4 นิ้วค่ะ
ตอบ เรื่องการขลิบปลายอวัยวะเพศส่วนใหญ่จะไม่มีผลอะไรเกี่ยวกับการทำให้ลึกครับ การทำช่องคลอดเทียมส่วนใหญ่จะประเมินว่าอวัยวะเพศแข็งตัวประมาณ 4 นิ้ว ถ้าแปลงเพศแบบใช้หนังอวัยวะเพศ (Penile Skin Inversion) หรือแปลงเพศแบบใช้หนังอวัยวะเพศร่วมกับหนังอัณฑะ (Penile Skin Inversion & Skin Graft) ความลึกของช่องคลอดเทียมจะอยู่ที่ประมาณ 5-5.5 นิ้วโดยประมาณ ซึ่งต้องขึ้นอยู่กับการดูแลหลังการผ่าตัดของคนไข้ด้วย เช่น การรักษาช่องคลอดเทียมโดยการใช้แท่งแก้วที่ออกแบบมาโดยเฉพาะในการดูแลหลังผ่าตัดอย่างน้อย 6 เดือน ส่วนการทำช่องคลอดเทียมด้วยการต่อลำไส้ร่วมกับหนังอวัยวะเพศเรียกว่า Sigmoid Colon เทคนิคนี้เหมาะกับผู้ที่มีความประสงค์ให้ช่องคลอดมีความลึกอย่างน้อย 6.5 นิ้ว ผู้ที่เหมาะกับการทำแบบ Sigmoid Colon คือ อวัยวะเพศเวลาแข็งตัวน้อยกว่า 4 นิ้ว และผู้ที่มีความประสงค์อยากให้มีช่องคลอดที่ได้ความลึกมาก และเหมาะกับผู้ทีมีสามีที่มีอวัยวะเพศยาว (แฟนเป็นชาวยุโรป หรืออเมริกา) ส่วนการแปลงเพศชายเป็นหญิงแบบใช้หนังต้นขา หรือหน้าท้องเข้าร่วมด้วยนั้นจะไม่แนะนำเนื่องจากจะมีรอยแผลเป็น และไม่เป็นธรรมชาติ
ถาม การขลิบปลายอวัยวะเพศจะมีผลต่อความรู้สึกทางเพศไหมคะ ถ้าหลังจากทำช่องคลอดเทียมแล้ว (กลัวจะสูญเสียความรู้สึกทางเพศ)
ตอบ การขลิบปลายอวัยวะเพศไม่มีผลที่จะทำให้ความรู้สึกทางเพศ (orgasm) ลดน้อยลง แต่ทั้งนี้ต้องขึ้นอยู่กับเทคนิคและความสามารถของแพทย์ที่ทำการผ่าตัดแปลงเพศ
ถาม การทำช่องคลอดเทียมแบบ sigmoid colon จะมีกลิ่นไม่พึงประสงค์ขณะร่วมเพศหรือไม่คะ และจะมีผลต่อลำไส้ของเราอย่างไรในอนาคต (ดิฉันไม่กังวลเรื่องสีชมพูหรือผิวจะหยาบจะนุ่มของช่องคลอดเทียมนะคะ แต่กังวลเรื่องมะเร็งหรือโรคแทรกซ้อนตามมาภายหลังค่ะ)
ตอบ หลังการผ่าตัดทุกชนิดในช่วงรักษาตัว หรือพักฟื้นอาจมีกลิ่นบ้างเนื่องจากเลือดที่สะสมอยู่ภายใน และการปรับตัวของร่างกาย แต่กลิ่นจะหายไปหลังทำไปแล้ว 3 เดือน จากการวิจัยและการศึกษา การผ่าตัดแปลงเพศแบบต่อสำไส้ร่วมกับองค์กรแพทย์แปลงเพศนานาชาติ (WPAT) การผ่าตัดแปลงเพศแบบต่อลำไส้จะไม่ส่งผลให้มีกลิ่นเหม็นในขณะร่วมเพศ หรือก่อให้เกิดมะเร็ง ผิวช่องคลอดหยาบ หรือโรคแทรกซ้อนเกี่ยวกับการแปลงเพศ
ถาม แฟนของดิฉันมีอวัยวะเพศที่ยาวพอสมควร กังวลเรื่องความลึกของช่องคลอดเทียม (กลัวเจ็บในกรณีที่ช่องคลอดเทียมตื้นหรือตีบตัว)
ตอบ แนะนำแปลงเพศแบบต่อลำไส้ครับ เพราะจากประสบการณ์ 30 ปี ในการแปลงเพศมักจะมีการกลับมาผ่าตัดแปลงเพศแบบต่อลำไส้อีกครั้ง เนื่องจากแฟนมีอวัยวะเพศที่ยาวมาก ส่วนความใหญ่ไม่เป็นปัญหาของการแปลงเพศแบบใช้หนังอวัยวะหรือแบบต่อลำไส้ครับ
ถาม ถ้าดิฉันทำประกันสุขภาพ ดิฉันสามารถเคลมเรื่องค่าห้องหรือค่าอื่นๆ ได้ไหมคะ
ตอบ การผ่าตัดแปลงเพศไม่สามารถนำมาเคลมประกันได้ครับ แต่ต่างชาติสามารถทำได้ครับ เนื่องจากกฏหมายให้การยอมรับการแปลงเพศเป็นโรคชนิดหนึ่งที่จำเป็นต้องรักษาครับ
ถาม สวัสดีค่ะทีมแพทย์ พีเอไอ ดิฉันอายุ 33 ปี ผ่าตัดแปลงเพศเมื่อปี 2549 เป็นระยะเวลา 6 ปี ตอนนี้มีปัญหามาก คือ ตอนนี้มีแฟนเป็นชาวต่างชาติ ซึ่งมีขนาดอวัยวะเพศที่ยาวกว่าช่องคลอดที่ทำ ทำให้ไม่มีความสุขในการมี sex เท่าที่ควรเลย และกลัวจะมีปัญหาชีวิตคู่ค่ะ ไม่รู้ว่าจะเจอคนที่ดีอีกหรือไม่ บอกตรงๆ ว่ากลุ้มมากค่ะ เพราะชาวต่างชาติ จะให้ความสำคัญในเรื่อง sexมากเป็นอันดับหนึ่ง ด้วยขนาดที่ใหญ่ ทำให้ทรมานและไม่เคยมีความสุข และ orgasm เหมือนตอนที่มีแฟนคนไทยที่มีขนาดเล็กกว่าเลยค่ะ ตอนนี้วัดช่องคลอดได้ 4.5 ” ค่ะ (ส่วนแฟนประมาณ 8″) ซึ่งตอนแรกที่ผ่าตัดมาลึกมากคะ 6.5 ” และพอหลังผ่าตัดหนูไม่ได้มีการร่วมเพศมาเป็นปี ช่องคลอดเลยตื้นขึ่นเรื่อยๆ ขนาดเป็นคนที่สวนแท่งแก้วตลอดนะคะ ขอเรียนสอบถามทางคณะแพทย์ค่ะ 1. ราคาในการผ่าตัดต่อลำไส้ 2. การเตรียมตัวก่อนการผ่าตัด 3. ผลข้างเคียง และความเสี่ยงภายหลังการผ่าตัด 4. ระยะเวลาการพักฟิ้นที่โรงพยาบาล 5. หลังการผ่าตัด ต้องสอดแท่งแก้วอีกหรือไม่ 6. จากประวัติการรักษาได้ผลน่าพึงพอใจมากน้อยแค่ไหน 7. จะมีผลต่อการ Orgasm หรือไม่
ตอบ
1. ราคาในการผ่าตัดเเปลงเพศเเบบต่อลำไส้ รบกวนโทรนัดเพื่อขอคำปรึกษาจากทีมเเพทย์พีเอไอก่อนนะครับ (รวมนอนโรงพยาบาล 6 วัน และค่าใช้จ่ายอื่นๆ)
2. การเตรียมตัวก่อนการผ่าตัด ต้องมาปรึกษาก่อนนะครับ และแพทย์จะให้รายละเอียดครับ หลังปรึกษาแล้วสามารถทำการผ่าตัดได้ภายใน 3-4 วันครับ
3. ในเรื่องของผลข้างเคียงและความเสี่ยงภายหลังการผ่าตัด ความปลอดภัยค่อนข้างสูงมากครับ โดยมากมักจะถ่ายไม่ออกประมาณ 3-5 วันหลังผ่าตัด เนื่องจากฤทธิ์ของยา และจะปกติภายในหนึ่งสัปดาห์ครับ ส่วนรอยแผลจะมีประมาณ 1 นิ้ว แนวนอนใต้กางเกงชั้นใน (bikini line) แต่จะจางลงหลัง 6 เดือนขึ้นไป
4. ระยะเวลาการพักฟิ้นที่โรงพยาบาล 5 วัน และอีก 10 วันที่บ้าน ระหว่างพักที่บ้าน แพทย์จะนัดวันมาตรวจครับ
5. หลังผ่าตัดแปลงเพศภายใน 8-12 เดือนจำเป็นต้องสอดแท่งแก้วอย่างน้อย 15 นาทีก่อนนอนครับ เพื่อจะให้ผิวหนังช่องคลอดไม่ตันครับ แต่ถ้าหลังผ่าตัด 5 เดือนไปแล้วถ้ามีเพศสัมพันธ์ระหว่างวันนั้นก็ไม่ต้องสอดแท่งแก้วครับ หลัง 1 ปีไปแล้วถ้าสัปดาห์นั้นมีเพศสัมพันธ์ก็ไม่ต้องสอดแท่งแก้วในสัปดาห์นั้นเลยครับ เพราะฉะนั้นแท่งแก้วจะมีสามขนาดจากเล็กไปใหญ่ครับ
6. จากประวัติการรักษาได้ผลน่าพึงพอใจมากน้อยแค่ไหนคะ = พึงพอใจครับ
7. จะมีผลต่อการ Orgasm หรือไม่ = จะมีความรู้สึก orgasm เหมือนการเเปลงเพศเเบบปกติครับ เเต่การเเปลงเพศเเบบต่อลำไส้ร่วมด้วยนั้นจะมีน้ำหล่อลื่นระหว่างร่วมเพศด้วยครับ จึงไม่จำเป็นต้องใช้เจลหล่อลื่นก่อนร่วมเพศ
8. ในอดีตดิฉันเคยใช้ยาคุมกำเนิดไดแอนและการฉีดควบคู่ และใช้แอนเดอคัวร์ แต่ปัจจุบันใช้แค่แอนเดอคัวร์ 50mg.+Progynova 2mg. ผลการตรวจร่างกายของโรงพยาบาลกลางที่นอร์เวย์ (Rikshospitalet) ระดับฮอร์โมนในร่างกายมีค่าเป็นฮอร์โมนหญิงปกติ จะสามารถแปลงเพศได้หรือไม่ ดิฉันใช้ชีวิตเป็นผู้หญิงมาโดยตลอดตั้งแต่อายุ 18 ปี ปัจจุบันอายุ 26ปี แต่งงานแล้วและไม่เคยมีเพศสัมพันธ์กับผู้หญิงด้วยกันค่ะ = สามารถทำการแปลงเพศได้ครับ แต่ต้องมีจดหมายรับรองของแพทย์ผู้ให้ฮอร์โมนว่าให้มานานเท่าไรแล้วครับ
9. หลังจากการผ่าตัดแปลงเพศแล้วดิฉันจะได้รับเอกสารรับรองอะไรบ้างคะ เพราะมีความจำเป็นต้องยื่นกับทางโรงพยาบาลและสำนักงานกฎหมายของนอร์เวย์ค่ะ = หลังการผ่าตัดแล้ว ทางเราจะออกเอกสารใบรับรองให้ครับ เพื่อที่คนไข้สามารถใช้ในทางราชการได้ครับ
10. ห้องพักฟื้นสามารถนำญาติหรือผู้ติดตามมาด้วยได้หรือไม่คะ เพราะคิดว่าจะเดินทางมาพร้อมกับแฟนค่ะ = ห้องพักสามารถให้ญาติอยู่ด้วยได้ครับ เป็นห้องส่วนตัว แต่ญาติอาจจะต้องนอนที่ sofa bed ครับ (ไม่มีค่าใช้จ่าย)
ถาม อยากทราบรายละเอียดเพิ่มเติมเกี่ยวกับความรู้สึกหลังแปลงเพศแบบใช้ลำไส้ เวลามีเพศสัมพันธ์เราจะสามารถถึงจุดสุดยอด หรือ orgasm เหมือนผู้หญิงไหมค่ะในกรณีผ่าตัดแบบต่อลำไส้
ตอบ การเเปลงเพศเเบบชายเป็นหญิงโดยร่วมกับลำไส้ Sigmoid Colon จะมีความรู้สึกทางเพศถึงจุดสุดยอด หรือ orgasm ได้เหมือนกัน เเละมีน้ำเมือกใสๆ หล่อลื่นระหว่างมีเพศสัมพันธ์ร่วมอยู่ด้วย
ถาม สนใจแปลงเพศแบบต่อลำไส้ เพื่อเพิ่มความลึกของช่องคลอด แต่มีเชื้อ HIV+ ทั้งนี้ร่างกายแข็งแรงปกติดีทุกอย่าง สามารถผ่าตัดได้ไหมคะ
ตอบ สำหรับการทำผ่าตัดแปลงเพศแบบต่อลำไส้ จะเป็นการผ่าตัดที่ต้องใช้องค์ประกอบอวัยวะอื่นๆ ร่วมอย่างมาก จึงไม่แนะนำให้ทำการผ่าตัดแปลงเพศแบบลำไส้ สำหรับคนไข้ที่มี HIV+ เพราะโอกาสที่แผลจะหายดีเป็นเหมือนธรรมชาติน้อยมาก
การนัดผ่าตัด
สามารถสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่
📞 02-715-0111
(9.00-17.00)
📱 081-813-6144
📧 consult@pai.co.th
Facebook preechasurgery
LINE @paisurgery