ศัลยกรรมตกเเต่งตาล่าง

(Lower Eyelid)

หนังตาล่างหย่อนคล้อย ริ้วรอยเหี่ยวย่นใต้ดวงตา หนังตาล่างลึก ดวงตาไม่สดใส ทำให้ใบหน้าดูแก่กว่าวัย เป็นปัญหากวนใจไม่ว่าจะเพศใดก็ตาม ด้วยเพศ อายุและลักษณะการถ่ายทอดทางพันธุกรรม ทำให้ดวงตาหย่อนคล้อยไปตามวัย ซึ่งสามารถแก้ไขได้ด้วยการผ่าตัดตกเเต่งตาล่าง เพื่อเสริมสร้างความงามให้กับดวงตา

    ทั้งนี้เทคนิคการทำศัลยกรรมตกเเต่งตาล่างที่เหมาะสม ขึ้นอยู่กับดุลยพินิจของแพทย์ และปัญหาของคนไข้แต่ละราย ซึ่งปัญหาที่พบบ่อยบริเวณตาล่าง คือ ริ้วรอยใต้ดวงตา รอยตีนกา ถุงใต้ตา (Baggy Eye Lid)

เพื่อให้ได้ผลลัพธ์ที่พึงพอใจสูงสุด คนไข้จำเป็นต้องเข้ามาปรึกษาเเพทย์ก่อนทำทุกครั้ง

วิธีการศัลยกรรมตกเเต่งตาล่าง

วิธีที่ 1 การผ่าตัดผ่านเยื่อบุตาด้านล่าง

   ศัลยแพทย์จะทำการเปิดแผล (ประมาณ 2 เซนติเมตร) บริเวณเยื่อบุตาด้านล่าง และนำถุงไขมันใต้ตาออก เพื่อลดขนาดของถุงใต้ตาให้มีความพอดีกับดวงตา

ข้อดี

·        ไม่มีแผลเป็นภายนอก แก้ไขปัญหาถุงใต้ตา ร่องน้ำตาหรือรอยคล้ำใต้ตาได้ทั้งหมด 

วิธีที่ 2 การผ่าตัดแบบแผลนอก

ศัลยแพทย์จะทำการเปิดแผลเส้นยาวชิดขอบตาล่าง

ข้อดี

·        สามารถทำการตัดแต่ง หรือย้ายไขมันหนังตาล่างร่วมกับตัดแต่งหนังตาส่วนเกินได้

·        สามารถเย็บเพื่อรั้งกล้ามเนื้อ ในรายที่มีหนังตาล่างหย่อนคล้อยได้ด้วย

·        เหมาะสำหรับผู้ที่มีปัญหาทั้งไขมันและหนังตาหย่อนคล้อยมาก

·        หลังจากแผลหาย จะไม่ทิ้งร่องรอยแผลผ่าตัดไว้

ผลลัพธ์ที่ได้หลังผ่าตัดตกแต่งตาล่าง

·        ช่วยให้เกิดความสมดุลย์ให้ดวงตา

·        แก้ปัญหาตาเศร้า ไม่สดใส

·        ใบหน้าอ่อนกว่าวัย

·         เพิ่มความมั่นใจ ได้บุคลิกที่ดีกลับคืนมา

การเตรียมตัวก่อนการผ่าตัดตกเเต่งตาล่าง

1.        ควรปรึกษาศัลยแพทย์ผู้เชี่ยวชาญถึงความต้องการและความเป็นไปได้

2.      เตรียมร่างกายให้พร้อม หากมีโรคประจำตัว โปรดแจ้งศัลยแพทย์ล่วงหน้า

3.      งดยา ที่มีผลต่อการแข็งตัวของเลือด เช่น Aspirin, Ibuprofen อย่างน้อย 5 วันก่อนการผ่าตัด

4.      งดวิตามิน หรือสมุนไพรที่ทานเป็นประจำ เช่น วิตามินอี เพราะจะทำให้เลือดหยุดยาก

5.      งดสูบบุหรี่ และงดเครื่องดื่มที่มีแอลกอฮอลล์ อย่างน้อย 1 สัปดาห์ก่อนการผ่าตัด

6.     เตรียมเเว่นกันเเดดมา เพื่อสวมใส่หลังการผ่าตัดด้วย

ขั้นตอนการดูเเลหลังผ่าตัดตกเเต่งตาล่าง

1.        นอนยกศรีษะให้อยู่สูงกว่าลำตัวประมาณ 2 ถึง 3 วัน และประคบเย็นเพื่อบรรเทาอาการบวมหรือช้ำอาจเกิดขึ้นได้  (อาการบวมช้ำจะเห็นได้ชัดเจนในช่วงสัปดาห์แรกหลังการผ่าตัด และจะค่อยบรรเทาลงภายใน 2 สัปดาห์ถึง 1 เดือน)

2.      แพทย์จะสอนวิธีทำความสะอาดดวงตา แนะนำให้ใช้ยาหยอดตาเพื่อบรรเทาอาการตาแห้ง แสบหรือคันตา รวมไปถึงการใช้ครีมหล่อลื่นทาดวงตา นอกจากนี้คนไข้อาจจะมีอาการน้ำตาไหลมาก ตาไวต่อแสง และสายตาพร่ามัวชั่วคราวในช่วง 2 ถึง 3 สัปดาห์แรกหลังผ่าตัด ในช่วงนี้หากมีอาการปวดแผล คนไข้จะต้องแจ้งศัลยแพทย์ผู้ทำการผ่าตัดทันที        

ระยะเวลาพักฟื้นหลังผ่าตัดตกเเต่งตาล่าง

·        อาจเกิดอาการบวม ช้ำของแผลหลังผ่าตัดในช่วงแรก อาการเหล่านี้จะค่อยๆ หายไป ภายใน 7 - 10 วัน

·        ความรุนแรง และผลข้างเคียงอาจแตกต่างกันไปขึ้นอยู่กับแต่ละบุคคล ส่วนใหญ่แล้วจะใช้เวลาพักฟื้นประมาณ 1 ถึง 2 สัปดาห์ก็กลับไปทำงานได้ตามปกติ

·        สัปดาห์แรกควรหลีกเลี่ยงกิจกรรมทุกประเภทที่ต้องใช้สายตา เช่น การอ่านหนังสือ ดูทีวี ใช้คอมพิวเตอร์ และการใส่คอนแทคเลนส์ เนื่องจากจะทำให้ตาแห้งได้

·        งดการกะพริบตาถี่ๆ เพื่อหลีกเลี่ยงอาการตาบวม

·        2 ถึง 3 สัปดาห์แรกหลังผ่าตัด ควรสวมแว่นกันแดดทุกครั้งก่อนออกจากบ้าน เพื่อป้องกันแสงแดดและลม

·        3 ถึง 4 สัปดาห์แรกหลังผ่าตัด ควรหลีกเลี่ยงกิจกรรมที่จะมีผลต่อการเพิ่มความดันในดวงตา เช่น การเล่นกีฬาทุกประเภท การก้ม การยกของหนัก การร้องไห้

·        งดเครื่องดื่มที่มีแอลกอฮอลล์ เพราะจะทำให้แผลหายช้า

·        พักผ่อนให้เพียงพอ

คำถามที่พบบ่อย

❔สามารถผ่าตัดตาบนและตาล่างพร้อมกันได้หรือไม่

✅ขึ้นอยู่กับความแข็งแรงของร่างกายและสภาพจิตใจของคนไข้ แต่ส่วนใหญ่สามารถผ่าตัดตาบนและตาล่างพร้อมกันได้

❔ศัลยกรรมตกเเต่งตาล่าง จะทิ้งรอยแผลเป็นไว้หรือไม่

✅ในระยะแรกหลังผ่าตัดใหม่ๆ อาจเห็นแผลได้บ้าง แต่จะจางลงจนแทบมองไม่เห็นร่องรอยภายใน 3-6 เดือน

❔ศัลยกรรมตกเเต่งตาล่างทำให้เกิดตาปลิ้นหรือไม่ และควรทำอย่างไร

✅ได้ หากคนไข้ภาวะที่หนังตาที่อยู่ด้านล่างมีการเกินออกมาเกินจากเส้นขอบขนตา ทำให้สังเกตเห็นเนื้อเยื่อสีแดงที่อยู่ด้านในของตา ซึ่งเนื้อเยื่อที่เกินออกมาจะได้รับการระคายเคือง ทำให้มีน้ำตาไหลและเนื้อเยื่อบุตาอักเสบได้

สาเหตุอาจมาจาก

1.        การขาดความชำนาญของแพทย์ ทำให้การประเมินปริมาณผิวหนังที่ต้องตัดออกมามากเกินไป หรือการเย็บที่ออกแรงดึงสูง ส่งผลให้กล้ามเนื้อโดนดึงหรือรั้งมากเกินไป

2.      ผู้ป่วยมีความพิการหรือได้รับอุบัติเหตุ

3.      ผู้สูงอายุที่มีภาวะตาล่างหย่อนยานมากกว่าภาวะตาโปน

4.      ผู้ที่สูบบุหรี่จัด รวมถึงคนที่เป็นโรคภูมิแพ้

เมื่อคนไข้พบภาวะตาปลิ้น ต้องแจ้งศัลยแพทย์ผู้ทำการผ่าตัดทันที หากเกิดขึ้นหลังจากที่ทำการผ่าตัดแล้วภายใน 1 เดือน ศัลยแพทย์อาจแนะนำการนวดที่บริเวณแผลผ่าตัด การรับประทานยารักษาโรคภูมิแพ้ การหยอดน้ำตาเทียม การติดแผ่นเทปเพื่อรักษาภาวะตาปลิ้นได้

การนัดผ่าตัด

สามารถสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่

📞                02-715-0111 (9.00-17.00)

📱                 081-813-6144

📧                consult@pai.co.th

Facebook         preechasurgery

LINE               @paisurgery